วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ตัวอย่างการใช้คำนาม




1.Common Noun (สามานยนาม)

*เป็นนามที่เป็นชื่อทั่วไปของคน สัตว์ สิ่งของ และ
สถานที่
 ไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น 
    -A man works in the garden.
   - 
A basket is full of oranges.
   -There is
 a new house in a big city.

2.Proper Noun (วิสามานยนาม) 
*เป็นนามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ และ
สถานที่ Proper Noun เวลาเขียนต้องเขียนขึ้นต้นด้วย Capital Letter (อักษรตัวใหญ่) เสมอไม่ว่าจะวางไว้ตรงไหนของประโยคก็ตาม เช่น

- London is the capital of England.
-Sony Television is more expensive than Sanyo.
- 
Somsri lives in Nakhon Pathom but works in Bangkok.

3. Collective Noun (สมุหนาม) 
 *นามที่เป็นชื่อของหมู่คณะ ฝูง พวก กลุ่ม โดยปกติแล้ว Collective Noun จะใช้ร่วมกับ Common Noun เสมอ โดยม of มาคั่น เพื่อเน้นความเป็น หมู่ หรือ คณะ นั้นชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น

                      
 Collective Noun + of + Common Noun

                                          a bunch of flowers   (ดอกไม้ช่อหนึ่ง)
                                            a gang of thieves   (ขโมยแก๊งหนึ่ง)
                                            a flock of sheep      (แกะฝูงหนึ่ง)
                                        a cluster of stars       (ดาวกลุ่มหนึ่ง)
                                          a group of students (นักศึกษากลุ่มหนึ่ง)



Collective Noun นอกจากจะเป็นคำวลีผสมด้วย of แล้ว บางครั้ง Collective Noun เป็นคำ คำเดียว ก็มี เช่น

                                  
family               (ครอบครัว)
                                  
army                 (กองทัพบก)
                                        team
                 (ทีม, คณะ, ชุด)
                                        mob
                  (หมู่คน)
                                        party    
            (พรรค, คณะ)
                                       government     
 (คณะรัฐบาล)
                                       committee         
(คณะกรรมการ) etc.

การนำ Collective Noun มาใช้เป็น Subject (ประธาน) ของประโยค จะใช้ Verb (กริยา) เป็น เอกพจน์ หรือ พหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความมุ่งหมายของผู้พูด คือ


1. ถ้าผู้พูด หมายถึง กลุ่มเดียว คณะเดียว หรือ ทั้งกลุ่ม ทั้งคณะนั้น เป็นหน่วยเดียว ไม่ได้แยกเป็นรายคน หรือ รายตัว กริยาต้องใช้รูปเอกพจน์ (Singular Verb) เช่น

                       
 A flock of sheep is worth one million baht.
                              
 (แกะฝูงหนึ่งมีราคาหนึ่งล้านบาท)


                      
 The government is trying a new measure.
                       
(คณะรัฐบาลกำลังลองใช้มาตรการอันใหม่)

2. ถ้าผู้พูด หมายถึง เป็นรายตัว หรือ รายบุคคล (Individual) โดยแยกแยะออกไปว่า ต่างคน
ต่างก็กระทำการ เช่นนี้ กริยาต้องใช้รูปพหูพจน์ (Plural Verb) เช่น

                       A flock of sheep are standing under the tree.
                    
(แกะฝูงหนึ่ง (ต่างก็) กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้)


                     
 The government have discussed the flood of Bangkok for three hours.
               
 (คณะรัฐบาล (ต่างคนก็) ได้อภิปรายเรี่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 ชั่วโมง)


4. Material Noun (วัตถุนาม)

เป็น นามที่เป็นชื่อของวัตถุ ได้แก่ แร่ธาตุ โลหะ ของแข็ง ของเหลว หรือบางทีเรียกว่า Mass Noun (นามมวลสาร) ก็ได้ เพราะนามพวกนี้อยู่เป็นกลุ่ม ก้อน แสดงความมากน้อยด้วยปริมาณ (quantity) ไม่ใช่ด้วยจำนวน (Number) และนามชนิดนี้ ไม่ใช้ Article นำหน้า ได้แก่

                       air             =         อากาศ                     leather     =         หนังสัตว์
                       bread       =        
ขนมปัง                      mud         =         โคลน
                       cloth         =         
ผ้า                              oil            =         น้ำมัน
                       coal          = 
        ถ่าน                            rice         =          ข้าว
                       copper     = 
       ทองแดง                    smoke     =          ควัน
                       cream      = 
        ครีม                           soap         =         สบู่
                       flour         = 
        แป้ง                           soil           =         ดิน
                       furniture = 
        เครื่องเรือน             sugar        =         น้ำตาล
                       goal         = 
        ทอง                            water        =        น้ำ
                       ink           = 
         น้ำหมึก                     wood         =       ไม้

 ตัวอย่างประโยค เช่น

                      
Copper is less valuable than goal.
                      
(ทองแดงมีค่าน้อยกว่าทองคำ


                      
Mud is soil mixed with water.
                      
(โคลน คือ ดินผสมกับน้ำ)


                      Living things cannot remain without 
air.
                 
 (สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่สามารถอยู่ได้ โดยปราศจากอากาศ)

Material Noun โดยปกติถือว่าเป็นนามที่นับไม่ได้ มีรูปเป็นเอกพจน์อย่างเดียว ดังนั้น ถ้าต้องการทราบ จำนวน หรือหน่วยของ Material Noun ให้ใช้ Common Noun มาประกอบคั่นด้วย of และที่ Common Noun นั้นจะเป็นผู้กำหนดจำนวนของ Material Noun ดังตัวอย่างข้างล่าง

                          a glass 
of milk                         (นมหนึ่งแก้ว)
                          two glasses 
of milk                  (นมสองแก้ว)
                      
a cup of tea                              (ชาหนึ่งถ้วย)
                    
  two cups of coffee                    (กาแฟ 2 ถ้วย)
                      
five pieces of chalk                  (ชอล์ค 5 แท่ง)
                      
one kilogram of sugar             (น้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม)
                     
 three kilograms of meat          (เนื้อ 3 กิโลกรัม)

         
ตัวอย่างประโยค   

                     
A piece of chalk is on the table.
                           
(ชอล์ค 1 แท่งอยู่บนโต๊ะ)


                    
Five kilograms of meat are worth two h undred baht.
                          
 (เนื้อ 5 กิโลกรัม ราคา 200 บาท)

นอกจากนี้ ถ้าต้องการพูดถึงปริมาณ “มาก” หรือ “น้อย” ให้ใช้เฉพาะคำบอกปริมาณต่อไปนี้เท่านั้น มาประกอบอยู่ข้างหน้า Material Noun
คำบอกปริมาณเหล่านี้ ได้แก่ little, a little, much, a lot of, plenty of , a great deal of

        
ตัวอย่างประโยคที่มีคำบอกปริมาณมาประกอบ

               
 He has little money in his pocket.


                   She has 
a little salt in the kitchen.


                   I have
 much ink in the bottle.


                   Anne wants to buy 
a lot of rice for his family.


                   There is 
plenty of sugar in the shop.


                   She has
 a great deal of fish left in the cupboard.

Note : อย่าใช้คำเหล่านี้ many, several, few, a few, a large number of, a great number of มานำหน้า Material Noun โดยเด็ดขาด


5. Abstract Noun (อาการนาม) หมายถึง นามที่เป็นชื่อของสภาวะ สถานะ คุณลักษณะ หรือ การกระทำของคน สัตว์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

                   
Death comes to all men.
                 
 (ความตายมาสู่คนเราทุกคน)


                    I have no 
choice in this matter.
                   
 (ผมไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้)


                   
Prevention is better than cure.
                       
(กันไว้ดีกว่าแก้)


                  
 Beauty is wanted by everyone.
                   
(ความสวยเป็นที่ต้องการของทุก ๆ คน)


                   It gives me much 
pleasure to see you here.
                       
 (ยินดีมากที่ได้พบคุณที่นี่)


Note : คำ Abstract Noun จะไม่ใส่ Article นำหน้า เว้นแต่จะนำมากล่าวเป็นลักษณะชี้เฉพาะให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงใช้ the นำหน้าได้ เช่น

                   
The death of Kitti calls for justice.
                   
(ความตายของกิตติเรียกหาความยุติธรรม)


                   
The braveness of his father is well known.
                 

 (ความกล้าหาญของบิดาของเขาเป็นที่รู้จักกันดี)



 Abstract Noun มีรูปมาจากคำเหล่านี้
         1. Abstract Noun มีรูปมาจาก
 Verb เช่น


  Verb               Meaning                           Abstract Noun                  Meaning

 
act                     กระทำ                                   acting         
                  การกระทำ         
 decide                ตัดสินใจ                               decision                         ตัดสินใจ
 drink
                  ดื่ม                                     drinking                            การดื่ม
 know                   
รู้                                        knowledge                      ความรู้
 live                     
อาศัยอยู่                               life                                  ชีวิต
 organize
             จัดการ                                  organization                   จัดการ     
 please                 
ทำให้พอใจ                           pleasure                         ความพอใจ
 speak
                    พูด                                       speech                           พูด
 succeed                
สำเร็จ                                   success                           สำเร็จ 
     
  2. Abstract Noun มีรูปมาจาก Adjective เช่น

  Adjective               Meaning                          Abstract Noun               Meaning

brave                        กล้าหาญ                           braveness                        ความกล้าหาญ
die                            ตาย                                   death                                ความตาย
happy                       มีความสุข                          happiness                         ความสุข
high                         สูง                                      height                               ความสูง
honest                     ซื่อสัตย์                               honesty                             ความซื่อสัตย์
poor                        ยากจน                                poverty                              ความยากจน
strong                      แข็งแรง                              strenght                             ความแข็งแรง 
true                         จริง                                      truth                                  ความจริง
wise                        ฉลาด                                  wisdom                             ความฉลาด      etc.
       
3. Abstract Noun มีรูปมาจาก Noun

   Noun                   Meaning                       Abstract Noun                      Meaning

 
child                       เด็ก                               childhood                            ความเป็นเด็ก
  
friend                     เพื่อน                             friendship                            ความเป็นมิตร
  
monk                     พระ                                monkhood                           ความเป็นพระ
  
slave                     ทาส                                slavery                                 ความเป็นทาส     etc.
       

 ชื่อศิลปวิทยาการต่าง ๆ ภาษา ดนตรี กีฬา จัดเป็น Abstract Noun ด้วย เช่น

                                                     chemistry
                เคมีวิทยา
                                                      geology                  
ธรณีวิยา
                                                      grammar                
ไวยากรณ์
                                                      English
                   ภาษาอังกฤษ
                                                      science
                    วิทยาศาสตร์
                                                      mathematics          
  คณิตศาสตร์
                                                      economies             
  เศรษฐศาสตร์
                                                      music                 
     ดนตรี
                                                      politics
                    การเมือง
                                                      art                       
     ศิลปะ
                                                      basketball
                บาสเก็ตบอล     etc.

6
Noun-Equivalent (นามสมมูลย์) หมายถึง คำ หรือ หมู่คำ ที่ไม่ใช่นามแต่นำมาใช้ทำหน้าที่ เช่นเดียวกับนาม หรือ เสมือนหนึ่งเป็นนาม มี 5 ชนิด ได้แก่

      
  6.1 Infinitive ได้แก่ กริยาที่มี to นำหน้า เช่น to go, to come, to walk, to sleep นำมาใช้อย่าง Noun ได้ เช่น

                                                   
 To sleep is necessary for health.
                                                     
(การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพ)
                                                    He wants
 to walk every morning.
                                                     
(เขาต้องการเดินทุก ๆ เช้า)

        6.2 Gerund ได้แก่ กริยาที่เติม ing (Verb-ing) เช่น running, walking, eating, reading etc. นำมาใช้อย่าง Noun ได้ เช่น

                                                    Maria likes 
reading after dinner.
                                                   
 Sleeping at midday is necessary for a baby.

       
 6.3 Adjective (คุณศัพท) บอกลักษณะ เช่น good, brave, rich, poor etc. นำมาใช้อย่างนาม (Noun-Equivalent) ได้แต่ต้องมี the นำหน้าทุกครั้งและถือเป็นพหูพจน์ (Plural) ด้วย เช่น

                                                    
The rich must help the poor.
                                                     
 (คนรวยจะต้องช่วยคนจน)


                                                    
The good should be praised.
                                                       
(คนดีทั้งหลาย ควรได้รับการยกย่อง)

       
  6.4 Phrase (วลี) นำมาใช้อย่างนาม (Noun-Equivalent) ได้ เช่น

                                                     
Where to go is not known
                                                      
 (จะไปไหนยังไม่มีใครทราบ)


                                                    
  I do not know what to say.
                                                      
  (ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี)

          
6.5 Clause (อนุประโยค) นำมาใช้อย่างนาม (Noun-Equivalent) ได้ เช่น

                             
What he is doing now is difficult for us to know.
                              
(เขากำลังทำอะไรอยู่ขณะนี้ยากสำหรับเราที่จะรู้ได้)


                               No one can understand
 why she cried.
                             
 (ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าทำไมเธอจึงร้องไห้)

7. Compound Noun (นามผสม) หมายถึง การนำเอานาม 2 ตัว มาเขียนติดกันเป็นคำเดียหรือเขียนแยกกันโดยมี Hyphen (-) มาคั่นหรือไม่ก็ได้ ดังนั้น นามผสม (Compound Noun) จึงมีแหล่งกำเนิดในรูปแบบได้หลายอย่าง ดังนี้

          
7.1 นำเอา Noun 2 ตัว มาเขียนติดกัน กลายเป็นนามผสม (Compound Noun) ขึ้นมา เช่น

                           
country    +    man       =      countryman         =     คนบ้านนอก
                           
cow           +    boy        =      cowboy              =     โคบาล
                           
door          +    man       =      doorman             =     คนเฝ้าประตู
                           
life            +    boat       =       lifeboat               =     เรือช่วยชีวิต
                           
mail          +    box         =       mailbox             =     ตู้รับจดหมาย                                     moon        +    light        =       moonlight          =      แสงจันทร์

         
7.2 นำเอา Verb-ing บ้าง นามบ้าง มาเขียนเป็นคำเดียวติดกับนามตัวอื่น โดยมีเครื่องหมาย Hyphen (-) คั่นไว้ นามนั้นก็จะกลายเป็นนามผสม (Compound Noun) ทันที เช่น

                                                   
 living – room                ห้องรับแขก
                                                   
 looking – glass             กระจกส่อง
                                                  
 school – boy                  นักเรียนชาย 
                                                   
swimming – pool           สระว่ายน้ำ

        7.3 นำเอานามตัวหนึ่งไปประกอบหน้านามอีกตัวหนึ่ง ทั้งนี้นามตัวหลังเป็นนามหลัก ส่วนนามตัวหลังเป็นนามประกอบ (หรือก Adjective ก็ได้) นามทั้งสองตัวที่มารวมกันกลายเป็นนามผสม (Compound Noun) และเขียนแยกกันโดยไม่ต้องมี Hyphen (-) คั่น เช่น

                                                 
  Bangkok Bank               ธนาคารกรุงเทพ
                                                  
 examination papers        กระดาษสอบไล่
                                                  
 football game                 กีฬาฟุตบอล
                                                  
 foot path                        ทางเดินเท้า
                                                  
 government school        โรงเรียนรัฐบาล
                                                   mango tree                     ต้นมะม่วง
                                                  picnic basket                   ตะกร้าสำหรับไปเที่ยว


8. Agent Noun (นามที่แสดงความเป็นผู้กระทำ) นามชนิดนี้มีรูปมาจาก กริยา หรือ นาม โดยการเติมปัจจัย (Suffic) er, or, ent, ant, ist และ ician ที่ท้ายกริยา หรือ ท้ายนามตัวนั้น แล้วกริยาหรือนามเหล่านี้ก็จะกลายเป็น Agent Noun เช่น

          act                     
กระท                        actor                  ผู้กระทำ
          attend             
   ตั้งใจ                          attendant           ผู้ติดตาม
          history               
ประวัติศาสตร์             historian           นักประวัติศาสตร์
          music                
ดนตรี                          musician          นักดนตรี
          piano                 
เครื่องเล่นเปียโน        pianist              นักเปียโน
         sail                  
   
แล่นเรือ                      sailor                กลาสีเรือ
         serve                  รับใช้                          servant              คนรับใช้
       
 study                  ศึกษา, เรียน               student             นักเรียน
         visit                    เยี่ยม                          visitor               ผู้มาเยี่ยม

Noun ถ้าแบ่งตามการนับ มี 2 อย่าง คือ

         1. Countable Noun (นามนับได้)
         2. Uncountable Noun (นามนับไม่ได้) 
   
 Countable Noun (นามนับได้) ต้องมีคุณสมบัติ 3 อย่าง ดังนี้  

         
 1. นับได้เป็นรายสิ่ง หรือ รายบุคคลโดยนามนั้นเอง
          2. ทำเป็นพหูพจน์ได้
          3. ใช้เลขนับจำนวน (one, two, three…) ประกอบข้างหน้าได้ ตัวอย่างเช่น
    

                                           
 a book                    two books
                                            a woman                three wo
men
 Uncountable Noun (นามนับไม่ได้) มีลักษณะอยู่ 3 อย่าง คือ

         
 1. นับไม่ได้เป็นรายสิ่ง และต้องอยู่รวมกัน เป็นกลุ่มก้อน
          2. ทำเป็นรูปพหูพจน์ไม่ได้ (มีรูปเอกพจน์อย่างเดียว)
          3. แสดงจำนวนด้วยปริมาณ “มาก” หรือ “น้อย” เท่านั้น


  ตัวอย่าง เช่น

        
  ink, sand,  gold, air, To walk, to eat, what to do, how to say   etc.

แต่ถ้าจำเป็นต้องทำให้เป็นเสมือนนามที่นับได้ต้องอาศัยวัตถุ ภาชนะ หรือเครื่องชั่ง ตวง วัด เข้ามาเป็นเครื่องนับนามที่นับไม่ได้ ให้เป็นนามที่นับได้แทน เช่น

        รูปเอกพจน์ (Singular Noun)

                                                 a piece of paper                   กระดาษหนึ่งแผ่น
                                                 a bar of soap                         สบู่ 1 ก้อน
                                                an item of news                    ข่าวหนึ่งเรื่อง
                                                
a loaf of bread                      ขนมปังหนึ่งก้อน
                                                
a bag of flour                        แป้งหนึ่งถุง
                                                 
a bottle of milk                     นมหนึ่งขวด      etc.

         รูปพหูพจน์ (Plural Noun)

                                                
 many pieces of paper         กระดาษหลายแผ่น
                                                glasses of water                   น้ำหลายแก้ว 
                                                 four baskets of fruit            ผลไม้ 4 กระจาด
                                                 six loaves of bread              ขนมปัง 6 ก้อน
                                                few rolls of cloth                    ผ้า 2-3 ม้วน      etc.

นามบางชนิด เมื่อกล่าวถึง รูปร่าง เป็นตัวเป็นตน ถือเป็น Countable Noun แต่ถ้าหมายถึง ส่วนที่แยกแยะเป็นชิ้นส่วนแล้ว ถือว่าเป็น Uncountable Noun เช่น

                                 Countable Noun                    Uncountable Noun
 

                           
cow, ox        =    วัว                     beef            =    เนื้อวัว
                           
pig              =    หมู                      pork             =    เนื้อหมู
                           
sheep          =     แกะ                   mutton        =    เนื้อแกะ
                           
tree             =    ต้นไม้                  wood            =   ไม้แปรรูป
                           
trousers      =    กางเกงขายาว     cloth            =    ผ้า       etc.


Function of Noun (หน้าที่ของนาม)  

           
 1. เป็นประธานของกริยาในประโยค (Subject of a Verb) เช่น

                    
 Mary loves her parents very much.  
                    
 Somsak is a student of the English language.

            
2. เป็นกรรมของกริยา (Object of a Verb) เช่น

                       
Jack loves Jane.
                        
I ate mangoes.

            3. เป็นกรรมของบุรพบท (Object of a preposition) เช่น

                       He speaks to
 his girlfriend every day.
                     
 We think of the teacher when we leave school.

            
4. เป็นส่วนสมบูรณ์ของกริยาเพื่อขยายประธานให้ได้ความชัดเจนขึ้น (Subjective Complement) ส่วนมากนามที่นำมาใช้ มักตามหลัง Verb to be หรือ become เช่น

                   
                           Suree is a student.
                                              Amnat becomes 
a doctor.
                                              She was 
a nurse two years ago.
            5. เป็นส่วน
ขยายกรรม (Objective Complement) หรือจะเรียกว่า ทำหน้าที่เป็นทั้งกรรม (Objective) และส่วนสมบูรณ์ (Complement) พร้อมกัน เช่น

                                              His parents named him
 Henry.
                                             We elected 
Mr.Sombat leader.

            6. เป็น
นามซ้อนนามที่อยู่ข้างหน้า (in apposition) และระหว่างนามข้างหน้าและนามที่ตามหลัง ต้องใส่เครื่องหมาย Commac (,) คั่นทุกครั้ง การซ้อนกันของนามแยกได้เป็น 2 กรณี คือ

                    
 6.1 ซ้อนในส่วนที่เป็นประธาน ให้วางไว้หลังประธาน เช่น

                                            
 Reagan, the president of the U.S.A., visited Thailand.
                                             
Our country, Thailand, is the land of peace.

                     6.2 ซ้อนในส่วนที่เป็นกรรมของกริยาในประโยค ให้วางไว้หลังกรรมนั้น เช่น

                                             Do you want to see Saman,
 the writer of this book?
                                             We admire our teacher, 
Mr.Manup.

           
 7. เป็นนามเรียกชื่อ (Vocative) เช่น

                                             
Robert, please close the door.
                                             You are right,
 Jimmy.
                                             
Teacher, explain it slowly.

            8. 
แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Case) ของนามทั่วไป โดยใช้เครื่องหมาย Apostrophe (‘s) ทุกครั้ง เช่น

                                            
 The teacher’s table is standing in front of the class.
                                             Do you know my principal
’s house?

            9. 
เป็นคุณศัพท์ (Adjectival Noun) ระกอบนามด้วยกัน โดยวางไว้หน้านามนั้น เช่น

                                             Sompong is waiting for you at the
 bus stop.
                                             The
 football match for today is very interesting.

          10. เป็น
กรรม ซึ่งมีลักษณะและความหมายเดียวกับกริยาที่อยู่ข้างหน้า (Cognate Object) เช่น

                                             She smiled a sweet
 smile.
                                                    
    (หล่อนยิ้มหวาน)
                                            
 Malee dreamt a good dream last night. 
                                                       
 (มาลีฝันดีเมื่อคืนนี้)

          
11. เป็นประธานอิสระของกลุ่มคำที่เป็นส่วนของกริยาวลี (Absolute Subject of Participial Phrase) แล้วไปขยาย Subject ในประโยค Main Clause อีกทีหนึ่ง เช่น

                                           
 Dinner being over, we all sat and talked.
                             
 (เมื่อ (ทาน) อาหารมื้อเย็นเสร็จแล้ว พวกเราทุกคนก็นั่งคุยกัน)


                                           
 The sun having set, the farmers walked home.
                                       
 (เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน ชาวนาทั้งหลายก็กลับบ้าน)

 Note : ประธานของประโยค Main Clause กับประธานอิสระ (Absolute Subject) ของกลุ่มคำ Participle Phrase ต้องเป็นคนละคนกัน และประธานอิสระเป็นสรรพนาม (Pronoun) ก็ได้  เช่น

                                    
 He having finished his work, we left the office together.
                                   
(เมื่อเขาทำงานเสร็จแล้ว เราก็ออกจากสำนักงานไปด้วยกัน)
   
Number of Nouns (พจน์ของนาม)
   แบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ

                  
1. Singular Number (เอกพจน์)
                 
 2. Plural Number (พหูพจน์)

      Singular Number หมายถึง นามที่เป็นชื่อของ คน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ ที่มีจำนวนเพียงสิ่งเดียว อันเดียว คนเดียว เช่น

                                           One cat is grasping 
a rat under the tree.
                                          
 (แมวตัวหนึ่งกำลังตะครุบหนูอยู่ใต้ต้นไม้)
              
                                            I saw an old man praying in the church.
                                       
(ฉันเห็นชายชราคนหนึ่งสวดมนต์อยู่ในโบสถ์)

      
Plural Number หมายถึง นามที่เป็นชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ ที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งขึ้นไป เช่น

                                           The 
students are reading in the room.
                                           Did you see
 two men come here yesterday?
                                           My father bought
 three fish from the market.
     หลักเกณฑ์การเปลี่ยนนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ 

                 1. เติม 
หลังนามเอกพจน์ทั่ว ๆ ไป เช่น

                                           book     
                       book                  หนังสือ
                                           cat                      
         cats                       แมว
                                           girl           
                    girls                        เด็กหญิง
                                           hand         
                  hands                    มือ
                                          month        
                  months                 เดือน
                                          pen              
                 pens                      ปากกา
                                          star    
                           star                     ดาว         etc.

                
 2. เติม เมื่อนามนั้นลงท้ายด้วย e เช่น

                                          face                              face
s                       ใบหน้า
                                          house       
                   house                   บ้าน 
                                          nose                           
 noses                       จมูก
                                          plate               
             plates                       จาน 
                                          size                        
      sizes                         ขนาด      etc.

              
3. นามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, และ z ให้เติม es เช่น

                                        
 bus                               buses                  รถประจำทาง      
                                         box                    
           boxes                  กล่อง
                                         buzz               
              buzzes                 เสียงหึ่งอย่างเสียงผึ้ง
                                         bench 
                         benches                ม้านั่ง
                                         glass      
                     glasses                  ถ้วยแก้ว

 ข้อยกเว้น                 monarch                    monarch                กษัตริย    ให้เติม s อย่างเดียว เพราะ ch ออกเสียงเป็น ค ไม่ใช่ ช  

            
4. นามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นพยัญชนะให้เติม es เช่น

                                         echo                       
      echoes                         เสียงก้อง
                                         hero        
                     heroes                          วีรบุรุษ     
                                        motto   
                        mottoes                         คติพจน์
                                        mango        
                 mangoes                       มะม่วง
                                        negro         
                  negroes                         นิโกร
                                        tomato     
                    tomatoes                      มะเขือเทศ     etc. 

 ข้อยกเว้น    นามที่ลงท้ายด้วย o ต่อไปนี้ให้เติม s เท่านั้น

                                
bamboo                   bamboo                  ไม้ไผ่      
                                 baboo  
                    baboo                      สุภาพบุรุษฮินดู
                                 cuckoo      
               cuckoos                     นกดุเหว่า
                                 kilo                    
       kilos                          กิโลชั่งของ
                                 piano        
                piano                       เครี่องเปียโน 
                                 radio                    
     radios                         วิทยุ
                                 solo                        
   solo                 การบรรเลงเพลงเดี่ยว    
                                 studio              
          studios                       ห้องช่างศิลป์
                                 kangaroo             
      kangaroos                  จิงโจ้
                                 zoo                            zoo
s                            สวนสัตว์   

 Note : นามที่ลงท้ายด้วย o ต่อไปนี้จะเติม s อย่างเดียวก็ได้ หรือเติม es ก็ได้ เช่น

                     
buffalo                        buffalos            buffaloes           ควาย    
                     calico 
                         calicos                calicoes           ผ้าเนื้อหยาบ  
                     cargo         
                  cargos                cargoes            สินค้า
                     domino       
                 dominos             dominoes        ลูกโดมิโน
                     grotto             
             grottos                grottoes            ถ้ำ    
                     halo                    
         halos                   haloes             แสงเป็นวงกลม
                     lasso                   
         lassos                lassoes              เชือกบ่วงบาศ
                     mosquito               
      mosquitos        mosquitoes         ยุง
                     portico                
         porticos            porticoes           หลังคาทางเดิน
                     proviso                       
 provisos            provisoes          ข้อแม้, เงื่อนไข
                     volcano           
             volcanos           volcanoes          ภูเขาไฟ
 

 ข้อยกเว้นพิเศษ       ส่วนนามที่ลงท้ายด้วย i ให้เติม s เช่น

                                taxi      
                          taxis
                                
ski                                 ski

            
5. นามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

                                baby  
                            babies   
                               
 body                               bodies
                               
 city                                 cities
                               
 country                         countries
                                
duty                               duties
                                
fly                                    flies  
                              
lady                                ladies
                              
 penny                            pennies 
                               
pony                              ponies
                               
story                              stories 

          
  แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ไม่ต้องเปลี่ยน ให้เติม s ได้เลย เช่น

                               boy
                                   boys
                               
day                                   days
                               
key                                   keys
                               
monkey                           monkeys
                              
 ray                                     rays
                             
  toy                                     toys

 ข้อยกเว้น        ถ้านามนั้น เป็นชื่อเฉพาะ (Proper Noun) ให้เติม ได้เลย เช่น

                              Henry          
                      Henrys
                              
Mary                                  Marys

            
6. นามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย หรือ fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v ก่อนแล้วจึงเติม es เช่น

                              calf                                    cal
ves                             ลูกวัว        
                             
 knife                                  knives                            มีด 
                              leaf                                    lea
ves                            ใบไม้    
                               
life                                    lives                               ชีวิต
                             
 loaf                                    loaves                            ขนมปังปอนด์  
                             
shelf                                  shelves                            หิ้ง 
                            
 wolf                                   wolves                             สุนัขป่า

 Note :    นามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ต่อไปนี้ เติม s ได้เลย เช่น
 
                            chief   
                               chiefs                            หัวหน้า
                            cliff     
                               cliffs                             หน้าผา  
                            gulf      
                             gulfs                              อ่าว
                            grief 
                                 grief                            ความเศร้าโศก
                            hoof 
                                  hoof                           กีบ (เท้าสัตว์)  
                            roof  
                                  roofs                            หลังคา
                            proof            
                     proofs                           ข้อพิสูจน์          
                            reef          
                          reefs                             หินโสโครก 
                            safe        
                           safes                              ตู้นิรภัย

แต่นาม 3 คำต่อไปนี้จะเปลี่ยน f เป็น v แล้วเติม es หรือไม่เปลี่ยน แต่เติม s ได้เลย เช่น
   
                            scarf              
         scarfs             scarves          ผ้าพันคอ
                            staff                   
     staff            staves             คณะบุคคล
                           wharf             
         wharf          wharves         ท่าเรือ

           
7. เมื่อเป็นพหูพจน์ เปลี่ยนสระ ภายใน  เช่น

                          
 foot                                  feet                                  เท้า
                         
  goose                              geese                                ห่าน
                          
 man                                 men                                 ชาย  
                          
 mouse                             mice                                 หนู
                           
penny                             pence /pennies             เหรียญเพนนี
                          
 louse                              lice                                   เหา, ไร
                           
woman                           women                             ผู้หญิง

           8. นามต่อไปนี้เมื่อเป็นพหูพจน์ให้เติม en หรือ ren เช่น

                          
child                                  children
                          
ox                                       oxen

           9. นามต่อไปนี้เป็นได้ทั้ง เอกพจน์ และ พหูพจน์

                                            
cod                cod                            ปลาค็อด
                                            
corps             corps                         กองร้อย
                                            
deer               deer                           กวาง         
                                            fish                fish                            ปลา
                                            series            series                       
   ชุด       etc.

          10. นามที่บอกสัญชาติ ลงท้ายด้วย 
ss หรือ se เป็นได้ทั้งเอกพจน์ และ พหูพจน์
 
                  
                                                      a Chine
se               two Chinese
                                                      a Japane
se              two Japanese
                                                       a Portugue
se         two Portuguese
                                                       a Swi
ss                  two Swiss
                                                       a Veitname
se         two Veitnamese

          11. นามต่อไปนี้มีรูปเป็น
 พหูพจน์ แต่ใช้เป็น เอกพจน์

                                                       civic
s                   ประชากร
                                                       ethic
s                   ศีลธรรม
                                                       economic
          เศรษฐศาสตร์
                                                       physic
               ฟิสิกส์
                                                      statistic
s               สถิติ

          12. นามต่อไปนี้มีรูปเป็น
 เอกพจน์ แต่ใช้เป็น พหูพจน์

                                                      cattle                
 วัวควาย
                                                      gentry                
พวกผู้ดี
                                                      minority             
คนส่วนน้อย
                                                      people              
 ประชาชน

 Note : people ถ้าเติม หมายถึง คนหลายเชื้อชาติ เช่น There are peoples living in Thailand.

          13. นามต่อไปนี้มีรูป และใช้อย่าง 
พหูพจน์

                                                      pant
s                    กางเกง
                                                      short
s                   กางเกงขาสั้น 
                                                      trouser
s                กางเกงขายาว
                                                      content
              สารบัญ
                                                      clothe
s                 เสื้อผ้า
                                                      good
s                   สินค้า
                                                      scissor
s                กรรไกร       etc.

          14. ตัวอักษรย่อ ทำเป็นพหูพจน์โดยเติม 
s ที่ท้ายตัวอักษร เช่น

                                                     VIP                       VIP
s
                                                     CD                        CD
s

                                                     MP  
         MP
s

อ้างอิงจาก

http://www.ntciap.com











10 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหากระชับเข้าใจง่ายคะ

    ตอบลบ
  2. เนื้อหาดีมากๆค่ะ เข้าใจง่าย เป็นประโยชน์มากค่ะะ

    ตอบลบ
  3. คำศัพท์เยอะ และมีสีสันสวยงามคะ

    ตอบลบ
  4. เนื้อหาเป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ

    ตอบลบ
  5. เนื้อหากระชับอ่านแล้วเข้าใจ มีสีสันที่สวยงามน่าอ่านมากคะ

    ตอบลบ
  6. เนื้อหาดีมากค่ะชอบๆ

    ตอบลบ
  7. อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีคะ blog ก็สวยอ่านสบายตาดีคะชอบคะ

    ตอบลบ
  8. เนื้อหาอ่านแล้วเข้าใจง่ายคะ มีสีสันสวยงามน่าอ่านมาก

    ตอบลบ
  9. เนื้อหาครอบคลุมดีค่ะ ชอบ

    ตอบลบ

คำนาม

                คำนาม ( noun)     หมายถึง  คำนามเป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคน    สัตว์    สถานที่   สิ่งของ และนามธรรม    เช่น   student, pol...